ความสมจริงของภาพยนตร์เรื่องดันเคิร์ก

ความสมจริงของภาพยนตร์เรื่องดันเคิร์กที่ผู้กำกับอย่าง คริสโตเฟอร์ โนแลน อยากจะให้คนดูสัมผัสกับรสชาติที่เหมือนจริง เหมือนกับคนดูได้หลุดเข้าไปอยู่ในเรื่องเลย

ในเรื่องของโลเคชั่นการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องดันเคิร์กนั้น แม้ว่าทีมงานจะพยายามหาสถานที่ถ่ายทำทั่วทั้งยุโรป แต่สุดท้ายแล้ว คริสโตเฟอร์ โนแลนและเหล่า Producer ก็มีความเห็นตรงกันว่า คงไม่มีที่ไหนเหมาะจะถ่ายทำเรื่องนี้เท่ากับสถานที่จริงในประวัติศาสตร์

หนังเรื่องนี้ถ่ายทำที่ดันเคิร์กและเพื่อความสมจริงยิ่งกว่าทีมงานก็เลยเลือกถ่ายทำหนังในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมถึงต้นเดือนมิถุนายน ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ได้บรรยากาศแล้วสภาพอากาศที่เต็มไปด้วยพายุและคลื่นที่ซัดกระหน่ำก็ยังใกล้เคียงกับเหตุการณ์จริงอีกด้วย

เฟียนน์ ไวท์เฮด (Fionn Whitehead) รับบทเป็นตัวเอกใน Part นี้ รับบทเป็นทอมมี่ 1 นายทหารผู้น้อยที่ติดอยู่กลางชายหาดร่วมกับนายทหารอีกนับแสนและเฝ้ารอปาฏิหาริย์มาช่วยชีวิตพวกเขา ท่ามกลางความหวังเขาก็ได้พบกับ Alex นายทหารผู้ร่วมชะตาชีวิตอีกคนรับบทโดย แฮร์รี สไตลส์ (Harry Styles) อดีตสมาชิกบอยแบนด์วง One direction งานแสดงครั้งแรกในเรื่องนี้เชื่อว่าหลายคนอาจจะคิดว่า Harry Styles ได้บทนี้มาเพราะชื่อเสียง แต่ผู้กำกับคริสโตเฟอร์ โนแลน ก็การันตีว่าแฮร์รี่นั้นต้องผ่านการแคสติ้งกับคู่แข่งนับพันเหมือนคนอื่นๆ และฝีมือการแสดงของเขาน่าจะ Surprise ใครหลายๆ คนที่ครหาอยู่ไม่น้อย

นอกจากเรื่องราวของเหล่าทหารที่เฝ้ารอการช่วยเหลือแล้ว อีกเรื่องราวที่สำคัญไม่แพ้กันเลยก็คือเรื่องราวของประชาชนผู้กล้าที่ยอมเสี่ยงชีวิตเดินเรือเข้าไปช่วยเหล่าทหารที่ดันเคิร์ก โดยใน Part นี้ เรือที่คุณเห็นไม่ใช้ CG แต่เป็นเรือจริงจากยุคสงครามโลกที่เอากลับมาแล่นบนทะเลอีกครั้ง งานหนักเลยเป็นในส่วนของผู้กำกับภาพอย่าง โฮยเตอ ฟัน โฮยเตอมา (Hoyte van Hoytema) ที่ต้องหาทางใช้กล้องฟิล์ม iMax 70 mm ถ่ายทำบนเรือที่โครงเครงตลอดเวลา แม้จะลำบากหน่อยแต่ผลที่ออกมาก็ถือว่าน่าทึ่งสุดๆ ครับ

ผู้ที่ได้รับบทเด่นที่สุดใน part นี้ก็คือ Mark Rylance นักแสดงรุ่นใหญ่ที่เพิ่งคว้ารางวัลออสการ์สาขาสมทบชายยอดเยี่ยมจาก Bridge of spy มารับบทเป็นประชาชนคนกล้าที่เดินเรือสู่สมรภูมิเพื่อช่วยชีวิตเหล่าทหารที่ติดอยู่ในดันเคิร์ก หนึ่งในนั้นคือ Cillian Murphy แสดงคู่บุญของคริสโตเฟอร์ โนแลน ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นการร่วมมือกันครั้งที่ 5 ของพวกเขาโดยทาง คิวเรียส เมอร์ซี่ ถึงกับออกปากชมว่าความสมจริงของกองถ่ายดันเคิร์กช่วยให้เขาเข้าถึงบทได้มากกว่าที่เคย